CERN
เซิร์น เป็นชื่อย่อที่มาจากอักษรตัวแรกของชื่อเต็มที่เป็นภาษาฝรั่งเศสว่า Conseil Européen pour la Recherche Nucléaire (CERN) หรือเป็นภาษาอังกฤษว่า European Council for Nuclear Research แปลเป็นไทยว่า ที่ประชุมแห่งยุโรปเพื่อการวิจัยนิวเคลียร์ โดยในปี พ.ศ. 2492 ลูอิส เดอ บรอยล์ (Louis de Broglie) นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสได้เสนอแนวความคิดริเริ่มของการก่อตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยแห่งยุโรป และในปี พ.ศ. 2495 ได้มีการลงนามร่วมกันจัดตั้งอย่างเป็นทางการโดย 11 ประเทศในยุโรป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นองค์กรระหว่างประเทศในยุโรปเพื่อการวิจัยฟิสิกส์พื้นฐานระดับโลก เซิร์นตั้งอยู่ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ครอบคลุมพื้นที่บริเวณชายแดนระหว่าง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส
-
เส้นสีขาวจากเครื่องบิน
เส้นขาวๆ ที่ลากยาวบนท้องฟ้า เมื่อเครื่องบินบินผ่านนั้น เราเรียกว่า Aircraft condensation trails หรือ “contrails” ซึ่งมาจากคำว่า condensation (การควบแน่น) กับ trail (ร่องรอย) ค่ะ contrail มักจะเกิดขึ้นในวันที่มีความชื้นสูง เมฆมาก หรือฝนเพิ่งตก เกิดขึ้นได้ 2 กรณี อย่างแรกคือ เกิดจากความร้อนหรือไอเสียของเครื่องยนต์ไปเพิ่มปริมาณความชื้น ทำให้น้ำที่มีอยู่ในอากาศผ่านจุดอิ่มตัว แล้วเกิดการควบแน่นกลายเป็นไอสีขาว เช่นเดียวกับเวลาที่อากาศหนาวๆแล้วเราหายใจออกมาเป็นไอสีขาว หรืออาจจะเกิดจากการที่ปีกของเครื่องบินก่อให้เกิดความแตกต่างของความดันอากาศ เครื่องบินบินเร็วและสูง เมื่ออยู่ที่สูงความดันอากาศลด อุณหภูมิก็จะลดตาม ทำให้น้ำในอากาศควบแน่นกันจนกลายเป็น contrail ขึ้นมา
-
พัวพันเชิงควอนตัม
การพัวพันเชิงควอนตัม (Quantum Entanglement) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคู่หรือกลุ่มของอนุภาค (particles) ได้ถูกสร้างหรือทำปฏิกิริยาในเชิงของสถานะควอนตัม (quantum state) สถานะควอนตัมของแต่ละอนุภาคไม่สามารถอธิบายได้ว่าจะเป็นไปโดยอิสระจากอนุภาคอื่น ๆ แม้ว่าอนุภาคเหล่านั้นจะถูกแยกออกในระยะห่างที่มาก ดังนั้นสถานะควอนตัมจำเป็นต้องอธิบายเป็นลักษณะของทั้งระบบ
-
ปรากฎการณ์ มิราจ
มิราจ (Mirage) คือการเกิดภาพลวงตาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสง จากการที่ชั้นของอากาศที่แสงเดินทางผ่านถึงมีอุณหภูมิต่างกัน โดยมักจะพบได้บ่อยในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด มักจะเกิดตามท้องถนน ทะเลทราย หรือบริเวณที่อากาศร้อนมาก ๆ
ทางวิทยาศาสตร์ได้อธิบายเหตุการณ์นี้ว่า การที่อากาศร้อนจัด ทำให้ผิวถนนเกิดความร้อนและส่งผลให้ชั้นอากาศที่อยู่เหนือผิวถนนแผ่ความร้อนตามขึ้นมาด้วย จนเกิดเป็นชั้นอากาศร้อนและชั้นอากาศเย็นที่แบ่งตัวกันอย่างชัดเจน
โดยชั้นอากาศเย็นจะมีความหนาแน่นกว่าชั้นอากาศที่ร้อน เมื่อแสดงเดินทางผ่านจากอากาศเย็นมาเจอชั้นอากาศที่ร้อนจึงเกิดการหักเห ทำให้เกิดการสะท้อน ส่วนหนึ่งปรากฏเป็นภาพวัตถุข้างหน้าตามปกติ อีกส่วนเกิดการโค้งและสะท้อนภาพเดิมซ้ำ ทำให้เรามองเห็นเป็นกระจก หรือเป็นภาพแอ่งน้ำบนถนนนั่นเอง โดยปรากฏการณ์นี้อาจเกิดขึ้นได้ในหลายสถานการณ์ เช่น การเห็นภาพกลับหัว หรือโอเอซิสในทะเลทราย
-
ทำไมท้องฟ้าสีฟ้า
ท้องฟ้าเป็นสีฟ้านั้นเกิดจากการกระเจิงแสงของโมเลกุลในชั้นบรรยากาศของโลก โดยเมื่อแสงขาวจากแสงแดดผ่านเข้ามายังชั้นบรรยากาศของโลกจะกระทบกับโมเลกุลแก๊ส และเกิดการกระเจิงแสงของโมเลกุล
เมื่อลำแสงจากดวงอาทิตย์ ผ่านบรรยากาศเข้ามาตรงศีรษะ หรือเกือบตรงศีรษะ แสงที่เดิมทีเป็นสีขาวก็แยกตัวออกด้วยการกระเจิงกลายเป็นมีสีฟ้ามากกว่าสีอื่นๆ เพราะโมเลกุลของก๊าซในบรรยากาศของเราจะกระเจิงแสงสีฟ้าได้ดีกว่า โดยเฉพาะโมเลกุลของก๊าซอ๊อกซิเจน และไนโตรเจน จะกระเจิงแสงสีฟ้าได้ดีกว่าสีแดงที่มีความยาวคลื่นมากกว่าสีฟ้า แสงที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าจะกระเจิง (Scattering) ได้ดีในชั้นบรรยากาศ
สียิ่งมีความยาวคลื่นสั้นก็ยิ่งจะกระเจิงแสงได้ดี และแสงสีฟ้านี่เองกระเจิงได้มากถึง 10 เท่าของสีแดง และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมท้องจึงเป็นสีฟ้า
-
วัคซีน Covid
วัคซีนที่เกี่ยวกับโควิด-19 จะแบ่งออกเป็น 4 ชนิด
1. mRNA Vaccine ย่อมาจากmessenger Ribonucleic Acid หรือวัคซีนชนิดสารพันธุกรรม วัคซีนกลุ่มนี้ ใช้เทคโนโลยีใหม่สังเคราะห์สารพันธุกรรมเอ็มอาร์เอ็นเอ (messenger RNA: mRNA) ที่เฉพาะเจาะจงกับเชื้อไวรัสแวัคซีนที่มีใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ วัคซีนของบริษัท Pfizer และ Moderna ซึ่งปัจจุบันวัคซีน mRNA ถือเป็นวัคซีนโควิด-19 ที่ทั่วโลกนิยมใช้มากที่สุด
2.วัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ Recombinant Viral vectorvaccine เป็นวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้ไวรัสตัวอื่นเป็นพาหะ แล้วฉีดเข้าไปในร่างกายมนุษย์ พัฒนาโดยการนำไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนฤทธิ์ลงแล้ว หรือไม่สามารถแบ่งตัวได้อีกมาตัดแต่งพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นพาหะ แล้วฝากสารพันธุกรรมของโควิด-19 เข้าไป ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา ซึ่งเทคนิคนี้เป็นวิธีที่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี เนื่องจากเลียนแบบการติดเชื้อที่ใกล้เคียงธรรมชาติ ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ AstraZeneca (แอสตร้าเซนเนก้า) ,บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
3.วัคซีนที่ทำจากโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ (Protein subunit vaccine) เป็นวัคซีนที่เลียนแบบสไปรท์โปรตีน หรือหนามแหลมของไวรัส โดยอาศัยสื่งมีชีวิตอื่นสร้างขึ้นมา เช่น แบคทีเรีย ยีสต์ หรือพืช วัคซีนที่ผลิตโดยเทคโนโลยีนี้ ทั่วโลกมีความคุ้นเคยมานาน เพราะใช้ในการผลิตวัคซีนหลายชนิด เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เป็นต้น
4.วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated vaccine) วัคซีนกลุ่มนี้ผลิตโดยนําไวรัสโรคโควิด19 มาเลี้ยงขยายจํานวนมาก และนํามาทำให้เเชื้อตาย การฉีดวัคซีนจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสทุกส่วน เสมือนได้รับเชื้อไวรัสโดยตรงแต่ไม่ทำให้เกิดโรค แต่เนื่องจากการเพาะเลี้ยงไวรัสต้องใช้ความระมัดระวังมาก ทําให้ผลิตได้ช้าและมีราคาแพง
-
Nuclear
พลังงานนิวเคลียร์ หรือ พลังงานปรมาณู (อังกฤษ: nuclear power, nuclear energy) เป็นพลังงานรูปแบบหนึ่งที่ได้จากการคายความร้อนในปฏิกิริยานิวเคลียร์ เพื่อประโยชน์ในการสร้างความร้อนและผลิตไฟฟ้า นิวเคลียร์ เป็นคำคุณศัพท์ของคำว่า นิวเคลียส ซึ่งเป็นแก่นกลางของอะตอมธาตุ ซึ่งประกอบด้วยอนุภาคโปรตอน และนิวตรอน ซึ่งยึดกันได้ด้วยแรงของอนุภาคไพออน แบ่งเป็น
1.พลังงานนิวเคลียร์แบบฟิซชั่น (Fission) ซึ่งเกิดจากการแตกตัวของนิวเคลียสธาตุหนัก เช่น ยูเรเนียม พลูโทเนียม เมื่อถูกชนด้วยนิวตรอนหรือโฟตอน
2.พลังงานนิวเคลียร์แบบฟิวชั่น (Fusion) เกิดจากการรวมตัวของนิวเคลียสธาตุเบา เช่น ไฮโดรเจน
3.พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสี (อังกฤษ: Nuclear Decay) ซึ่งให้รังสีต่างๆ ออกมา เช่น อัลฟา เบตา แกมมา และนิวตรอน เป็นต้น
4.พลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดจากการเร่งอนุภาคที่มีประจุโดยเครื่องเร่งอนุภาค เช่น อิเล็กตรอน โปร ตอน ดิวทีรอน และอัลฟา เป็นต้น
-
ควอนตัม คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ธรรมดาที่เราใช้งานกันทั่วไป จะมีการประมวลผลบนระบบเลขฐานสอง (Binary Digits หรือหน่วย Bits) รูปแบบข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าไปจะมีเพียง 0 และ 1 เท่านั้น ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน กำลังของคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานกันอยู่อาจไม่เพียงพอต่องานประมวลผลที่ซับซ้อนและมขนาดใหญ่ ดังนั้น จึงมีการพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ขึ้นมา
Quantum Computer คือระบบคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล ที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ทฤษฎีควอนตัมฟิสิกส์ โดยควอนตัมคอมพิวเตอร์นั้นจะใช้หน่วยที่เรียกว่า Qubit (Quantum Bit) ซึ่งสามารถประมวลผลข้อมูลได้หลายสถานะในตำแหน่งเดียว
-
อาวุธไฮเปอร์โซนิค
อาวุธไฮเปอร์โซนิก หรืออาวุธความเร็วเหนือเสียง (Hypersonic Weapon) บินด้วยความเร็วอย่างน้อย 5 มัค (Mach) มีความคล่องตัว สามารถหลบหลีกและเปลี่ยนวิถีระหว่างการบิน พวกมันแตกต่างจากขีปนาวุธทิ้งตัว (Ballistic Missile) ซึ่งสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือเสียง (อย่างน้อย 5 มัค) เช่นกัน แต่ขีปนาวุธจะเคลื่อนที่ไปตามแนววิถีโค้ง อีกทั้งมีความคล่องตัวที่จำกัด
-
Hyperloop
Hyperloop คือเทคโนโลยีการคมนาคมขนส่งแห่งโลกอนาคต ด้วยการเดินทางผ่านท่อสุญญากาศ โดยมีพาหนะที่เรียกว่า pod หรือแคปซูล ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแรงแม่เหล็กไฟฟ้า(magnetic levitation – Maglev) เดินทางไปยังจุดหมายที่ต้องการ โดย Pod จะเดินทางไปด้วยความเร็วสูงสภาพแวดล้อมที่มีแรงดันต่ำและแรงเสียดทานต่อ ทำให้ในทางทฤษฎี มีการคาดการณ์ระยะเวลาการเดินทางไว้ที่ 1200 กิโลเมตร / ชั่วโมง เลยทีเดียว